จากที่เคยได้ขับรถผ่านวัดนี้ ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นเห็นได้ชัด จากถนน วัดจะเป็นสีทองเหลืองอร่ามสะดุดตา ทำให้มีความตั้งใจที่จะต้องเข้ามาเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ให้ได้ สุดท้ายได้มีโอกาสได้มา ในวันเสาร์ที่ 6.8.65 ก่อนการเดินทางได้ศึกษาประวัติของวัด และสถานที่ตั้ง กับเส้นทางที่จะไป

สถานที่ตั้ง และ การเดินทาง

วัดปากน้ำโจ้โล้ ตั้งอยู่ที่ ถนนวนะภูติ ตำบลปากน้ำ อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา

การเดินทางสะดวกมาก ด้วยรถยนต์ส่วนตัว ใช้เวลาในการเดินทางออกจากกรุงเทพเขตมีนบุรี 1 ชั่วโมง วิ่งถนนสุวินทวงศ์ ผ่านเมืองฉะเชิงเทรา เลี้ยวซ้ายวิ่งเข้าอำเภอบางคล้าเลี่้ยวขวาตรงไป อีกประมาณ 3 กิโลเมตร วัดจะอยู่ซ้ายมือ ตัววัดจะมีอาคารโบสถ์สีทองตั้งอยู่เหลืองอร่าม มีพุทธรูปสูงเด่น อยู่ด้านข้าง และมีรูปปั้นของพระเจ้าตากสินมหาราช ตั้งอยู่ด้านนอกข้างโบสถ์ฝั่งแม่น้ำ มีท่าเรือ พานั่งไปไหว้พระที่อยู่ริมแม่น้ำ เช่น วัดสมานรัตนาราม ที่อยู่ไม่ไกลจากวัดปากน้ำ

สำหรับท่านใดไม่มีรถส่วนตัวสามารถเดินทางด้วยรถสาธารณะ ไปลงที่สถานีขนส่งตัวเมืองฉะเชิงเทรา และนั่งรถไปต่อที่ตลาดน้ำบางคล้า เมื่อไปถึงสามารถเหมารถมอเตอร์ไซต์ หรือรถรับจ้างท้องถิ่นไปได้

ประวัติความเป็นมาของวัดปากน้ำ โจ้โล้

สิ่งที่หน้าสนใจและต้องการมาวัดนี้ ต้องการมาชมวัดที่มีประวัติศาสตร์ จากที่ได้อ่านมา เป็นวัดที่สร้างในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินเมื่อปี พ.ศ.2336 พื้นที่บริเวณนี้เดิมเป็นที่ตั้งของกองทัพพม่า ได้ต่อสู้พ่ายแพ้ต่อสมเด็จพระเจ้าตาก พระองค์จึงได้โปรดเกล้าให้สร้างเจดีย์ขึ้นมาเพื่อเป็นอนุสรณ์ ชื่อคำว่า โจ้โล้ มาจาก แผนการรบ พระองค์ทรงโล้เรือมาตามคลองเพียงลำพัง เพื่อล่อทหารพม่า และให้ทหารไทยเข้าล้อมโจมตี จนได้ชัยชนะได้เรียกเจดีย์ว่า ” เจ้าโล้ ” นานๆไปได้เพี้ยนมาเป็น โจ้โล้ ต่อมาเจดีย์นี้ได้ถูกน้ำกัดเซาะพังทางกรมศิลปากรจึงได้สร้างขึ้นมาใหม่ในบริเวณเดิม จากการสอบถามจากชาวบ้านที่ดูแลวัดแห่งนี้ โครงที่เป็นประตู หน้าต่าง และคาน จะเป็นไม้เก่าของเดิม ส่วนอาคารที่เป็นปูนสร้างขึ้นมาใหม่ และทาสีอุโบสถทั้งหลังเป็นสีเหลืองทอง ทำให้เป็นเอกลักษณ์ของวัด แห่งนี้ มีที่เดียวในประเทศไทย หลังคาประดับด้วยพญานาค ตรงกลางมีบุษบกยอดฉัตร ส่วนกำแพงแก้วชั้นนอกตกแต่งลวดลายธรรมจักรสลับด้วยโคมไฟรูปช้างสามเศียร เป็นระยะๆ ด้านบนของอุโบสถมีการสร้างบุษบกไว้ เพื่อบรรจุพระบรมธาตุ

ภายในอุโบสถมีการนำลวดลายปูนปั้นใช้แม่พิมพ์สร้างงานขึ้นมา ใช้สีทองทั้งหมด แทนการใช้ภาพจิตรกรรมฝาผนัง และมีองค์หลวงพ่อโตเป็นประธาน จำลองมาจากพระพุทธชินราช ด้านหน้าพระประธานมีรูปพระเจ้าตากสิน บูชาด้วยพานเครื่องทองน้อยแทนการจุดธูปเทียน รอบๆ อาคารมีตู้ทำบุญ 40 เหรียญบาทต่ออายุขอโชคลาภ ทางวัดจะมีเหรียญจัดไว้ให้แลก ต้องใส่พอดีกับเหรียญที่เตรียมไว้

ภายในอุโบสถสิ่งที่สำคัญนอกเหนือจากการมากราบไหว้บูชา คือ การลอดใต้ฐานพระประธาน ที่มีความเชื่อ เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล โดยเดินจากทางด้านซ้ายและเดินทะลุด้านขวาของพระประธาน ขณะลอดจะมีบทสวดมนต์ภาวนาอธิษฐานจิต ให้ตัวเองตามที่ต้องการ

ด้านนอกที่ติดริมน้ำ จะมีพระบรมรูปของพระเจ้าตากสิน ตั้งสูงตะหง่านสง่างาม ให้ประชาชน ไปกราบไหว้บูชา จะมีดาบ สำหรับไหว้ และ ใกล้กับทางลงท่าเรือ จะมีต้นตะเคียนคู่มีอายุยาวนานที่ชาวบ้านนำมากราบไหว้บูชา ด้วยเช่นกัน

ด้านหลังของอุโบสถ จะเป็นศาลของสมเด็จพระเจ้าตากจะมีไก่ถวายเพื่อขอพร และศาลาของหมอชีวกโกมารภัทร ปู่นารอด ปู่ตาไฟ และไอ้ไข่ ให้ประชาชนมากราบไหว้บูชา เช่นกัน

สำหรับวัดนี้ใช้เวลาในการกราบไหว้บูชา และเดินชมทั้งภายในภายนอกรอบวัด เกือบ 2 ชั่วโมง หากมีเวลาอย่าพลาด วัดสวยๆ แห่งนี้ เด็ดขาด